ปรับขนาดตัวอักษร
ภาษา
สถานที่ท่องเที่ยว
ศาลเจ้าแม่จันเท
ยังไม่มีผู้ให้คะแนน

ศาลเจ้าแม่จันเท 

ศาลเจ้าแม่จันเท เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองมาบตาพุด จังหวัดระยอง เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2490 ที่ริมทาง เกวียน บริเวณบ้านหัวน้ําตกในชุมชนมาบตาพุด (บริเวณที่ตั้ง บ.ทองถวิลบริการในปัจจุบัน) มีศาลาหลังเล็ก ขนาดกว้าง 1 เมตร ยาว 2 เมตร หลังคามุงด้วยกระเบื้องว่าว เสาเป็นไม้แก่น 1 เสา ฝาเป็นไม้ยาง ภายในมีหุ่น ผู้หญิงปั้นด้วยปูนขนาดเล็ก ผู้คนขนานนามชื่อว่า “เจ้าแม่จันเท” มีผู้คนแวะไปกราบไหว้บูชา ขอพร ณ ศาลเจ้า  แม่จันเทแห่งนี้เป็นจํานวนมาก 

จนวันหนึ่งชาวชุมชนแถบบริเวณหัวน้ําตก ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าแม่จันเท เกิดความคิดว่า ศาลเจ้าแม่ ควรไปอยู่ในที่ที่มีความเจริญ การเดินทางสะดวกกว่านี้ ไม่ใช่ริมถนนทางเกวียนแบบที่เป็นอยู่ จึงพร้อมใจกันขุด เสาไม้แก่น และจุดธูปอัญเชิญเจ้าแม่จันเท และยกศาลาศาลเจ้าแม่จันเทมาทั้งหลัง มาตั้งบริเวณถนนลูกรังริม คลอง ทางเข้าวัดมาบตาพุด (ชื่อถนนวัดมาบตาพุดในปัจจุบัน) ทําให้ผู้คนที่ผ่านไปมาได้เห็น และพากันกราบไหว้ บูชา ชื่อเสียงของเจ้าแม่จันเทเลื่องลือไปไกลในด้านความเมตตามหานิยม ได้พบกับความสําเร็จในด้านธุรกิจ การค้าขาย จนกระทั่งมีเจ้าของร้านค้าใหญ่ในตลาดมาบตาพุด “ร้านพรเจริญ” ได้ให้หมอสมศักดิ์ สุขกันตะ ซึ่ง เป็นคนมาบตาพุดได้ออกแบบ และก่อสร้างตําหนักหลังใหม่จากไม้ยาง หลังคากระเบื้องว่าว เป็นตําหนักคอนกรีต ทั้งหลัง เพื่อถวายเป็นที่ประทับของเจ้าแม่จันเท จากนั้นมาชาวบ้าน ร้านค้าต่างๆ ก็เข้ามากราบไหว้ขอพรกัน อย่างเนืองแน่น คนต่างจังหวัดก็มากราบไหว้ขอพรเจ้าแม่กันมากมาย

ต่อมามีพ่อค้าร้านวัสดุก่อสร้าง ชื่อ พ่อจิ๋ม-แม่สมหมาย จากจังหวัดสมุทรปราการ ได้กราบไหว้ขอพร เจ้าแม่จันเท และเจ้าแม่ได้ประทับทรงแม่สมหมายทําให้กิจการวัสดุก่อสร้างของทั้งคู่ประสบความสําเร็จ ค้าขาย ได้กําไรมากมาย จึงได้ให้ช่างมาออกแบบสร้างที่ประทับใหม่ เป็นไม้เนื้อแข็ง สร้างเป็นศาลาทรงไทย (ในปัจจุบัน) แทนตําหนักหลังเดิมที่เป็นคอนกรีต 

เมื่อศาลเจ้าแม่จันเท ได้รับการบูรณะให้ใหญ่โตสวยงามขึ้น มีผู้คนรู้จักมากขึ้น หมอวิสูตร ร่มสีม่วง ซึ่ง เป็นกรรมการดูแลศาลเจ้าแม่ในขณะนั้น ได้ประชุมกรรมการศาลเจ้าแม่จันเท และมีมติยกศาลเจ้าแม่จันเทให้กับ ทางศาลเจ้ามาบตาพุด (ศาลปึงเถ่ากง) เข้ามาบริหารจัดการ โดยมีนายจํารัส วสันต์ชื่น ได้เข้าร่วมประชุมรับรู้เรื่อง การโอนย้ายการดูแลในครั้งนี้ ต่อมาคณะกรรมการศาลเจ้ามาบตาพุดอีก 2 ท่าน คือนายเว้ง เรื่องพัฒนทวี และ นายสุรศักดิ์ วชิรพัฒนพรชัย มีความเห็นว่าควรจะขยายพื้นที่ของศาลเจ้าแม่จันเท เพื่อรองรับผู้คนที่แวะมากราบ ไหว้บูชา อีกเป็นจํานวนมากในอนาคต จึงได้จัดซื้อที่ดิน จํานวน 1 ไร่ จากนายพุ่ม ทองเสน ในราคา 100,000 บาท (ปัจจุบันที่ดินแปลงนี้โอนเป็นทรัพย์สินของสมาคมมาบตาพุดสามัคคีแล้ว) 

หลังจากนั้นได้มีการบริหารจัดการ ปรับปรุง พัฒนา ศาลเจ้าแม่จันเทอย่างต่อเนื่อง ด้วยการบริหาร ของ สมาคมมาบตาพุดสามัคคี ในแต่ละชุด และจากการสนับสนุนแรงกาย แรงใจ แรงศรัทธา จากประชาชน เคารพนับถือ ในองค์เจ้าแม่จันเท ทําให้ศาลเจ้าแม่มีความโดดเด่น สวยงาม มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักจนถึงทุกวันนี้ 

สามารถแวะเข้าไปสักการะกราบไหว้บูชาขอพรได้ทุกวัน ในเวลา 09.00 น. -18.00 น. ของทุกวัน ช่วงเดือนมกราคมของทุกปีจะมีการทําบุญใหญ่ และมีพิธีเซ่นไหว้เจ้าแม่จันเทตามประเพณี จากศิษยานุศิษย์และ ผู้ที่ศรัทธาเป็นจํานวนมาก  

แสดงความคิดเห็น